Wallpaper

28/6/55

"ใกล้เพียงปลายตา ห่างพันไมล์หัวใจ"

ผมเคยคิดเล่นว่า.....
ถ้าเราคิดถึงใครสักคน เค้าจะรับรู้ถึงความรู้สึกของเราไหม?
ถ้าเรารู้สึกดี ๆ กับใครสักคน เค้าจะเห็นมันผ่านแววตาของเราไหม?
ถ้าเราไม่พูดและไม่ทำสิ่งใดเลย เค้าจะรู้ไหม?ว่าเค้ามีความสำคัญกับเราแค่ไหน?
เหมือน ๆ ผมกับเธอในวันนี้
กาลเวลาผ่านมาเนิ่นนาน..เรื่องราวของสองเรายังคงระลึกอยู่ในความทรงจำของผม
เราเจอกันทุกวัน แต่เรายิ้มให้แก่กันไกล ๆ
เราพูดคุยปรึกษากันได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องหัวใจของเรา
มีหลายครั้งที่ผมอยากจะเอ่ยปากบอกความรู้สึกไป แต่ผมรับรู้ได้ในแววตาว่าคุณเปลี่ยนไปแล้ว
สมัยก่อน คุณเคยถามผมว่า....ชอบสิ่งไหนที่สุดในตัวคุณ?
ผมจะมองลึกเข้าไปในดวงตาของคุณและตอบคุณว่า...ชอบดวงตา ก็ดวงตาของคุณมันสื่อความหมายได้ชัดนัก
แล้วคุณก็จะถามผมต่อว่า....ไหนบอกซิว่าตอนนี้คุณคิดอะไร?
ผมก็จะยิ้ม ๆ แล้วก็ตอบกลับไปว่า...คุณรักผมหน่ะสิ แล้วเราทั้งสองคนก็จะหัวเราะให้แก่กันในความแสนรู้ของผม
แต่ถ้าวันนี้ผมต้องตอบคำถามนั้นอีกครั้ง...ผมจะตอบคุณว่า
คุณจะเห็นคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าคุณ และเค้าอยากจะขอโทษคุณถึงเรื่องราวที่ผ่านมาและถ้าไม่มากเกินไป เค้าอยากฝากความคิดถึงให้คุณ....



"10 ปีที่ผ่านไป...ไม่มีค่าเท่ากับ 1 วันที่เหลืออยู่"

ความทรงจำ เป็นสิ่งที่มีค่ามาก สำหรับคนบางคน
โดยเฉพาะคนที่มีเวลาดี ๆ ที่ใช้กับคนรัก
ยิ่งเป็นช่วงเวลาที่หลายคนหวงแหน
ต้องระลึกไว้ในความทรงจำ ต้องถนอม ดูแลให้ดี
หลายคนจึงไม่อาจตัดใจจากวันเก่า ๆ ได้เสียที
เพราะว่ามีความสุข กับการได้คิดถึงอะไรดี ๆที่ผ่านไป
โดยลืมนึกไปว่า สิ่งที่ผ่านไปแล้ว จะไม่มีวันย้อนกลับคืนมาได้อีก
หากจะต้องตัดใจลืม หรือเดินจากอดีตมาก็ไม่ได้อีก
เพราะเหตุผลที่ว่า "เสียดายเวลา" ที่คบกันมา
บางคนคบกันมานาน จนแทบจำไม่ได้ว่า
เคยยิ้มให้กับความรักครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
เพราะหลัง ๆ มาก็อยู่แต่กับความทุกข์
จนนึกภาพความสุขไม่ออก แต่ที่ไม่กล้าเลิก เพราะยังคิดถึงวันเก่า ๆ
แค่เสียดายเวลาที่คบกันมาเนิ่นนาน
โดยไม่คิดเลยว่า ทุก ๆ วันของวันนี้ พรุ่งนี้ และวันต่อ ๆ ไป
ก็จะกลายเป็นเพียงวันเก่า ๆ ที่น่าเสียดาย
และ...เวลาที่น่าเสียดายก็จะเพิ่มขึ้น ๆ
จริง ๆ แล้ว วันคืนในอดีต
ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้กับเราเลย
นอกจากมีไว้ให้ นึ ก ถึ ง
อาจจะทำให้เรายิ้มได้บ้าง แต่ทำให้เราคาดหวังไม่ได้
เราจะไปหวังว่าวันหนึ่ง วันเหล่านั้น จะกลับา
หรือจะไปเฝ้าฝันว่าความสุขเหล่านั้น ยังคงเป็นปัจจุบัน
หรือหลอกตัวเองว่าตอนนี้ทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนเดิม
จะยังไงก็แล้วแต่ คือ การหลอกตัวเองทั้งนั้น
ยอมรับเถอะว่าทุกอย่างได้ผ่านไปแล้ว และจบไปแล้ว
ความทรงจำเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น
เวลาที่ผ่านมาไม่ว่าจะ 1 ปี 5 ปี หรือกี่สิบปี
ก้อไม่ได้มีความหมายมากไปกว่า..
หนึ่งวันข้างหน้าที่เราจะต้องมีชีวิตใหม่
ที่เราจะต้องเริ่มต้นใหม่
เมื่อคนเราต้องอยู่กับปัจจุบัน
เพื่อที่จะสร้างอนาคตให้ตัวเอง ได้อยู่ในอนาคตที่ดี
เวลา 10 ปี กับวันคืนที่เคยหวานชื่น
ไม่ได้ยิ่งใหญ่ไปกว่า 1 วันแห่งการเริ่มต้น
1 วันแห่งการแปรเปลี่ยนชีวิตของเราทั้งชีวิต
ใ ห้ ดี ก ว่ า ที่ เ ป็ น
" หากจะเสียดายเวลาน่ะ ไม่ต้องเสียดายเวลาที่คบกันมาหรอก
ให้เสียดายเวลาในวันข้างหน้า ที่จะอดทนคบไป ทั้งที่ไม่มีอะไรแล้วจะดีกว่า
แล้วยังจะมาเสียดายอดีต..นึกดูดี ๆ ว่าเสียดายอนาคต ดีกว่าไหม "
จากหนังสือ..ถ้าความรัก..ทำให้เราร้องไห้..
อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วชอบมาก ๆ อยากให้อ่านกัน อิอิ..



10/6/55

จูบ

ถ้าปรารถนาจะจุมพิตกับสุดที่รักก็รีบทำ ๆ ซะ ส่วนจะจูบกันที่ไหนดี อากาศสดชื่นแบบไหน เรามีให้เลือกแล้ว



1. จูบกันในอ่างอาบน้ำ

ขณะที่กำลังนอนแช่ในน้ำอุ่น หรืออาบน้ำให้กันและกัน อย่าลืมบีบนวดคลายเมื่อยให้คนรักด้วยนะคะ จะได้รู้ไปเลยว่า เราทั้งคู่ก็ทำอะไร สวีต ๆ แบบนี้ก็เป็นนะ จะบอกให้ หรือไม่ก็อย่าลืมบรรจงจูบลูบไล้ไปพร้อมกันซะเลย โถ... หน้าตาบ้องแบ๊วของเขายังคงน่าเอาริมฝีปากพุ่งชนจะตายไป



2. จูบกันในครัว

เดือนสุดท้ายของปีมีวันหยุดตั้งเยอะ ลองหาวันว่าง ช่วยกันทำอาหารมื้อสุดพิเศษที่มีลำพังเพียงเรา 2 คน ก็ไม่เลวนะ ได้ถือโอกาสใกล้ชิดเพื่อแจกจูบกันซะให้เสร็จสรรพ ลองคิดดูสิ ว่าทำกับข้าวไป จูบกันไป จะโรแมนติกแค่ไหน



3. จูบกันในงานปาร์ตี้

นี่เลย ใครจัดงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ก็ไปสังสรรค์ แต่อย่าลืมพาดาร์ลิ่งไปด้วยละกัน ทำแบบตั้งใจควงไปอวดคนอื่นว่ามีแฟนแล้ว ท้าทายสายตาของผู้คนดีออก



4. จูบกันบนชิงช้าสวรรค์ หรือรถไฟเหาะ ตอนรถพาไปถึงจุดที่หวาดเสียวที่สุด

คิดดูสิว่า รสจูบจะหวานอมขมกลืน เฮ้ย จะหวานซาบซ่าสดชื่นแค่ไหน ว่าแต่จูบบนที่สูงๆ อย่าปากคอสั่นไปก่อนเน้อ ไม่ใช่อะไรหรอกเดี๋ยวพลาดเป้าละแย่เลย



5. จูบขณะห่มผ้าผืนเดียวกัน ช่างน่ารักน่าชังเหลือเกิน

อันนี้โรแมนติกเล็ก ๆ จูบรับอรุณบนเตียงใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน หวานซะขนาดมดยังอาย



6. จูบขณะไปดูแสงสียามค่ำคืน

ตอนชวนกันไปดูการแสดงไฟที่มีการ จัดประดับประดาซะสวยงาม ตามสวน สาธารณะ, หน้าโรงแรมหรือห้างสรรพสินค้า พอดูแล้วชื่นตา แถมอากาศก็เป็นใจ งั้นจูบกันสักที สองทีจะเป็นไรไป แต่อย่าถึงกับจูบปากให้ประเจิดประเจ้อในที่สาธารณะ แค่หอมแก้มกันก็พอ แล้วก็ต้องหอมยามทีเผลอด้วยนะ



7. นี่ถ้าบ้านเรามีหิมะ จะแนะนำให้นั่งรถเลื่อน

แต่ในเมื่อหิมะไม่มี ก็หันมานั่งรถสามล้อชมเมืองไป แล้วคลอเคลียกันทั้งวันทั้งคืนแทน

ลองหยุดนั่งรถยนต์ส่วนตัว แล้วจูงกันไปนั่งรถตุ๊กตุ๊กมั่งจะได้ไม่จำเจ แถมยังเอี้ยวตัวมาหอมกันตอนไหนก็ได้ เพราะมีข้ออ้างไงว่า ก็รถมันวิ่งปรูดปราด ฉวัดเฉวียนให้ต้องเกาะกันจะได้ไม่ตกรถ



8. จูบกันท่ามกลางลมเย็น ๆ โชยมา

อย่าลืมละว่า ทุกคนย่อมต้องการความอบอุ่น งั้นขอกอดเป็นของแถมด้วยได้ไหม





9. จูบกันตอนจูงกันไปเดินช็อปปิ้ง ขณะยืนมองดูหน้าร้านเค้าจัดซะสวยเช้ง

ถ้าอยากแจกจูบบนหน้าผาก หรือบนศีรษะแทนซื้อของแพง ๆ กำนัล ก็ไม่เป็นไร ชูนโยบายประหยัด ไว้ปลูกเรือนหอดีกว่า



10. จูบกันใต้ต้นไม้ที่บ้านนั่นแหละ

เอาแบบไม่ให้คนรักรู้ตัวด้วยยิ่งดี เขาจะได้จำไว้ ว่าเมื่อไหร่ถึงควรเอาคืน.


 

บางเวลาที่เหงา ของสาวโสด

หลายครั้ง ในชีวิตประจำวันที่รีบเร่งของเราเท้าที่เดินแกมวิ่งไปตามท้องถนน
แทบจะไม่เปิดโอกาสให้เรา หยุดมองสิ่งใด
มีเพียงจุดหมาย และนาฬิกาบนข้อมือ
ที่ถูกสายตาชำเลือง
แต่ทว่าในวันที่โลกหมุนช้า...
หลายครั้ง เวลาที่เราก้าวเดินไปตามท้องถนน
ท่ามกลางผู้คนมากมายรอบกาย
แต่เรา กลับรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่เพียงลำพังคนเดียว
คู่รักหลายคู่ เดินจูงมือ หยอกล้อเล่นหัวกันอย่างสนุกสนาน
ผ่านหน้าเราไป...
แต่เมื่อเราหันมองข้างกายตนเอง
กลับพบแต่เพียงความว่างเปล่า
ในยามที่อากาศครึ้ม ท้องฟ้าสีขุ่นมัว
ด้วยเมฆดำที่เคลื่อนกายมาโอบล้อม
พายุแรงพัดโหมกระหน่ำ
เรานั่งมองสายฝนโปรยเม็ดขาว
พรั่งพรูลงมาตกกระทบ เปื้อนบานกระจกหน้าต่างใส
รู้สึกเจ็บลึกเหมือนถูกน้ำกรดของความเหงา
สาดเซาะลงไปที่เนื้อเยื่ออันอ่อนนุ่มของหัวใจ
แต่เมื่อม่านฝนขาดเม็ด สายลมพัดหมู่เมฆสลาย หอมไอดิน และกลิ่นดอกไม้ระเหยต้องนาสิก
แสงสว่างยามอรุณรุ่งทอประกายอ่อนหวาน
ก็พลันเคลื่อนเข้ามาปลอบโยนลูบไล้หัวใจให้เบิกบาน
แทนที่ความเหงา
ชีวิตก็เป็นดังนี้
โศกเศร้ากำสรวล อาดูร อ้างว้าง
หัวเราะ ร่าเริง แจ่มใส
หมุนเวียนเปลี่ยนสลับไปไม่คงที่
ในขณะที่ใครบางคนกำลังเหงาเพราะไม่มีใคร
แต่บางคนกลับกลัดกลุ้มรำคาญคนเคียงข้าง
เฝ้าแสวงหาเพียงอิสรภาพ
แต่ทั้งนี้ สภาวะอารมณ์ทั้งมวลของคนทั้งหลาย
ก็เฉกเช่นเมฆน้อย ที่ลอยเลื่อนผ่านเข้ามา
แตะคลุมจิตของตน...
และจะเคลื่อนผ่านไปในไม่ช้านาน
ถ้าเราไม่อาจยึดปุยเมฆ มากอดเก็บข้างกาย
เช่นเดียวกับที่ไม่อาจยึดจิตใครเป็นที่พึ่งพิงพนัก
หน้าที่ของเราคือ มองดู อยู่กับปัจจุบันที่นี่ ไม่วิ่งตามเมฆ
สร้างที่พึ่งอันมั่งคงจากภายในของจิตเราเอง
ทำกิจที่พึงทำ อย่างดีที่สุด
ให้สมควรแก่กำเนิดของภพชาติมนุษย์
โลกก็เป็นเช่นนี้
แม้ปราศจากซึ่งคนรัก หรือมีใครแนบกายพร้อม
ที่สุดแล้ว... ชีวิตเราก็เริ่มต้นและสิ้นสุดลงด้วยลมหายใจของตนเอง

นี่แหลก........ความเหงา


สำหรับบางคน . . . ที่บอกตัวเองไม่ได้ว่า
กำลังสุข หรือ เศร้า กับคำว่า . . . "ความรัก"



บางเวลาในชีวิตหนึ่ง . . . โลกกำหนดให้หัวใจรู้จักกับ "ความเหงา"
เพื่อที่วันหนึ่ง . . . ความเหงาจะผลักดัน คนสองคนเข้าหากัน
เพื่อลดช่องว่างให้กันและกัน สร้างคืนวันที่ดี ๆ ร่วมกัน
และเพื่อที่วันหนึ่ง โลกจะแยกให้พวกเขา "จากกัน" . . .
ให้ชีวิตวนกลับสู่ "ความเหงา"


บางเวลาในชีวิตหนึ่ง . . . โลกกำหนดให้หัวใจรู้จัก "ความเหงา"
ด้วยเหตุผลบางอย่าง . . . นั้นคือให้โลกใบนี้ยังคงมีความรัก
ดำเนินต่อความเหงา . . . ทำให้หัวใจสองดวงเชื่อมถึงกันด้วยความคิดถึง



แม้ในยามที่โลก . . . แยกคนทั้งสองให้ห่างกันไป ไกลแสนไกล . . .
ชีวิตยังคงดำเนินต่อไป . . . ท่ามกลางความโดดเดี่ยว
แต่ภายใต้เปลือกตาอันมืดมิด ความทรงจำ จะกลับชัดเจนขึ้นเสมอ
ในวันที่ ความเหงาทำให้เราคิดถึง . . .


ความรัก . . . คือ อาวุธชนิดหนึ่ง
ที่เราหยิบมันมาเเล้วค่อย ๆ กรีดใจของตัวเอง อย่างช้าๆ
สุดท้าย . . .ก็มีแต่เราเท่านั้นที่จะเจ็บปวด แค่เพียงลำพังอย่างโดดเดี่ยว
ความคิดถึง . . . ได้พาให้ฉันสัมผัสกับความเปลี่ยวเหงา
ได้นำพาฉัน ก้าวเข้าสู่โลกแห่งความว่างเปล่า และโดดเดี่ยว



ความคิดถึง เศร้า . . . แต่หวาน งดงาม . . . แต่ทุกข์
และเมื่อฉันได้คิดถึงเธอ ขอให้ความคิดถึงของฉัน จงเดินทางไปให้ถึงเธอ
ให้เธอได้รับรู้ถึง ความเศร้าที่แสนหวาน . . . ความงดงามที่เจือรอยทุกข์
และเมื่อนั้น . . .
เธออาจจะมองเห็นฉันได้แย้มยิ้ม อยู่ในหยาดน้ำตา ก็เป็นได้
.
.
.
.
.
.
.
.


บางครั้ง ความรัก ก็เข้ามาหาเรา เพื่อให้เราเรียนรู้ มิใช่ให้เราครอบครอง
ไม่ผิดหากจะรักคนมีเจ้าของ แต่จะผิดหากเข้าไปทำหน้าที่ซ้ำซ้อนคนอีกคน
หน้าที่ของความรัก คือการเดินไปมอบความรัก และยืนเฉยๆเพื่อรับมัน ไม่ใช่การดิ้นรนเพื่อให้ได้มา
ในห้วงรัก การถูกรัก มันสุขใจ การมอบความรักมันอิ่มเอม และเมื่อได้รับการปฏิเสธ มันทรมาน
ความรัก จะเกิดขึ้นเมื่อเกิดการถ่ายเทพลังอันอ่อนโยนของคนสองคน
ความรัก มิใช่การเข้าไปเป็นชีวิตเขา แต่คือการเข้าไปอยู่ข้างๆชีวิตเขา
คนบางคนเหมาะที่เกิดมาเพื่อให้เรารัก แต่ไม่เหมาะที่จะร่วมชีวิตด้วย
ความรัก ระยะแรกทำให้ร่างกายหลั่งสารกระตือรือร้น ทำให้มนุษย์ทำทุกอย่างให้ได้มาซึ่งความรัก
แฟน ก็คือ เพื่อนคู่คิด ที่ก้าวไปด้วยกันในวันข้างหน้า
ในวันที่ความรักคงที่ สารกระชุ่มกระชวยงดทำงาน สิ่งเดียวที่จะทำให้อยู่ด้วยกันได้ตลอดไป คือ ความเข้าใจล้วนๆ
ความห่างไกล มันทรมาน เวลาเจอกันจึงหอมหวาน และเป็นความทรงจำที่เก็บไปนั่งเพ้อฝันได้ในวันจาก
บุคคลไม่พึงประสงค์สำหรับทุกคู่รัก มักจะเดินทางมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย
ผู้ชายแสดงความรักด้วยการกระทำ ขณะที่ผู้หญิงอยากรู้ว่ารัก จากคำพูด
............................................................
................................................
.........................................
......................................
..................................
..............................
......................................
............................
.......................................
เคยไหม..ที่คุณออน msn เพื่อที่อยากจะคุยกับใครซักคน
แต่คุณรู้ไหม..ว่ามีใครตั้ง Busy ไว้เพื่อที่จะคุยกับคุณคนเดียว
เคยไหม..ที่คุณรอ msg จากใครบางคนที่คุณคิดถึง
แต่คุณรู้ไหม..ว่ามีคนส่ง msg ให้คุณเพราะเค้าแคร์คุณมากกว่าใคร
เคยไหม..ที่คุณคิดอยากจะชวนเค้าไปเที่ยวไหนต่อไหนแต่ไม่กล้าชวน
แต่คุณรู้ไหม..ว่ามีคนชวนคุณไปไหนต่อไหนแต่คุณไม่ไปด้วย
เคยไหม..ที่คุณแอบชอบใครคนหนึ่งมากมาย
แต่คุณรู้ไหม..ว่าที่มีใครเค้าทำอะไรให้คุณนั้นน่ะ เพราะเค้าชอบคุณนะ
เคยไหม..ที่คุณฟังเพลงแล้วคิดถึงใครคนหนึ่ง
แต่คุณรู้ไหม..เค้าส่งเพลงบอกรักให้คุณแต่คุณกลับไม่ใส่ใจ
เคยไหม..ที่คุณเคยชอบใคร แต่เค้ากลับไม่ชอบคุณ
แต่คุณรู้ไหม..ว่ามีคนที่รอคุณแต่คุณกลับเดินผ่านเค้าไป
เคยไหม..ที่คุณทำอะไรซักอย่างแล้วคิดถึงใครคนหนึ่ง
แต่คุณรู้ไหม..ว่ามีใครคนหนี่งคิดถึงคุณทุกเวลาไม่ว่าจะทำอะไร ....

ลองคิด ดูนะว่านายจะช้ำอยู่กับความรักที่ผ่านมาหรือพร้อมจะ เดินหน้าเพื่อตัวเอง