Wallpaper

31/8/55

"ไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิม"

ก็รัก...รักเธออย่างที่สุด
ก็รู้...รู้ดีว่าเธอไม่กลับมา
แต่ฉัน ก็ยังทำใจไม่ได้เลย
กลับการต้องสูญเสียเธอไปอย่างนี้
เธอรู้มั้ยฉันคิดถึงเธอเหลือเกินเธอรู้มั้ย

ฉันร้องเรียกหาเธอทุกวี่วันเธอรู้มั้ย

ฉันอยากกอดเธอให้เหมือนอย่างวันที่แล้วมา 

อยากจะร้องไห้เลยอ่ะ 

บทความเศร้าๆจากเรื่องจริงของชีวิตคนคนนุง

วันนี้ฉันมีโอกาสไป ยืนมองภาพของความวุ่นวาย ยามไร้แสงแห่งดวงอาทิตย์ที่
สะพานพุทธ ภาพยามไร้แสงแห่งดวงอาทิตย์ในวันนี้ก็เหมือนในทุกๆคืนที่ฉันได้มอง
แต่ในวันนี้มัน พิเศษจากคืนวันอื่นๆตรงที่
คนที่ยืนอยู่ข้างๆฉันนั้นทำให้ฉันได้รู้สึก
ถึงความแตกต่างที่พิเศษอันนั้น


อะไรจากตัวเธอที่ทำให้ฉันได้รับรู้ถึงความพิเศษนั้นได้...ฉันเฝ้าถามตัวเองทุกครั้งที่เรา
ได้พบกัน ความรู้สึกพิเศษเหล่านี้มันเกิดมาจากไหนและเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
เธอก็เป็น
แค่คนธรรดา ๆ คนหนึ่งซึ่งก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้จักมาก่อน..
แต่ทำไมเธอคนนี้ถึงทำให้
ฉันรู้สึกอะไรได้มากมายเพียงนี้ ฉันรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเห็นเธอเศร้า
ฉันรู้สึกดีใจเมื่อเห็นเธอยิ้ม
และหัวเราะ
ฉันจะยินดีมากที่ได้ยินเสียงเพลงที่ร้องออกมาแต่ไม่ค่อยจะเพราะเท่าไหร่เสียงนั้น..

น้ำเสียงท่าทีที่เธอแสดงออก
ในวันนี้ดูเหมือนมีความสุขแต่ในใจดวงนั้นฉันไม่อาจล่วงรู้ได้
ว่าเธอคิดอะไร ดีใจ เสียใจ
หรือเฝ้ารอใครคนนั้นของเธอ..ให้เค้ากลับมา..รักเธออีกครั้ง..

เธอยืนอยู่บนสะพาน และพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก..ฉันมองและอดคิดไม่ได้ว่า
ริมฝีปากเธอ
ช่างน่าที่จะ สัมผัสเหลือเกิน แต่ฉันก็ไม่สามารถทำได้ ฉันมองดูความวุ่นวายไปรอบๆ
และแล้วสายตา
ฉันก็ต้องมาจบลงที่เธอคนนี้อีกครั้ง หัวใจฉันอยากโอบกอดเธอเหลือเกิน ที่รัก..
คำๆนี้มันออกมาจากหัวใจฉัน
เพื่อร้องเรียกเธอ...แต่ฉันก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ฉันไม่รู้ว่าฉันอยู่ข้างๆเธอเพื่ออะไร ฉันทำอะไรไม่ได้เลย
ฉันไม่อาจสัมผันถึงหัวใจเธอได้เลยหรือ ฉันยืนคิด
เธอยืนพ่นควันและเธอกับเพื่อนก็ร้องเพลง..
ฉันยืนอยู่บนสะพานเดียวกับเธอ..แต่ดูเหมือนเราห่างกันเหลือเกิน..ที่รัก..เธอรู้สึกเหมือนฉันบ้างหรือเปล่า..ให้ฉันได้รู้ถึงข้างในใจของเธอบ้างสักครั้ง
..คนดี..อย่าให้ฉันได้เป็นแค่คนที่ยืนมองเธออยู่ข้างๆเธอนะคนดี..ขอฉันเป็นคนในหัวใจเธอจะได้ไหม..ฉันเฝ้าหวังเช่นนั้น

ฉันหวังว่า หัวใจดวงเล็กๆของฉันที่ดูเหมือนไม่มีความหมายสำหรับเค้า
คงจะเติมเต็มหัวใจของเธอได้ในสักวัน...แต่ความจริง..ฉันไม่สามารถเติมเต็มหัวใจนั้นได้เลย
เธอไม่เปิดโอกาสให้ฉันหรือว่า ฉันไม่ดีพอ... มันคงเป็นคำถามในใจฉันเสมอ..

แม้วันนี้หัวใจของฉันจะดูเหมือนว่างเปล่า..แต่มันยังคงเฝ้ารอให้ใครสักคน
คนนั้นหันกลับมามองและเดืมสิ่งที่ขาดหายไปนั้นให้เต็มสักวัน...

แม้วันนี้เราจะห่างกันด้วยช่องว่างอะไรก็ตาม..ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้ช่องว่างนั้นหายไป

แม้วันนี้เธอจะไม่รักฉันแต่ฉันเชื่อในความรัก..ที่สวยงาม..ฉันจะรักเธอต่อไป..

ขอแค่เวลาที่เหลือของเรามีความสุขดีก็พอ....

สิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรามันคืออะไรกันแน่...จริงแท้หรือเป็นเพียงการหลอกลวง....
หรือว่าไม่มีอะไรอยู่เลยต่างหาก...มีเพียงแค่เราคนเดียว....แค่คนเดียวเท่านั้น...
ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นมาจากการที่ต้องอยู่ตัวคนเดียว...มันเกิดขึ้นมานาน
เราเองก็ได้แต่หลอกตัวเองตลอดว่าไม่เป็นไร...ไม่ได้อยู่คนเดียวซักหน่อย...ดูสิมีเพื่อนตั้งเยอะ....
แต่สุดท้าย...ความรูสึกนั้นก็ไม่หายไปซักที...มีแต่สั่งสมขึ้นเรื่อยๆ....
ความเหงาที่มีมานั้นรุนแรงจนกระทั่งนานเข้ามันก็เป็นแค่ความเฉยชา...
เฉยจนไม่ต้องการใคร...ไม่ไว้ใจใคร...ไม่รักใคร...ไม่ต้องการให้ใครเห็นความรู้สึกเจ็บปวดของตัวเอง...
แสดงออกไปให้ทุกคนเห็นว่าร่าเริง...มีความสุขดี...
แต่นั่นมันก็แค่หน้ากากที่ต้องสวมตลอดเวลา...เพื่อปิดกั้นตัวเอง...
เคยลองเปิดใจ...ยอมรับคนๆหนึ่งเข้ามา...แต่แล้ว...ทุกอย่างก็จบลง...
สิ่งที่เหลือก็คือคำว่า... “ปล่อยเราไปเถอะ...ถ้ายังรักเราอยู่ก็ปล่อยเราไป”....
ตอนนั้น...จิตใจมันบอบช้ำสับสนทั้งคำว่า...รัก...เกลียด...แค้น...
สับสนซะจนคิดจะจบทุกอย่างลงด้วยการตาย....
แต่แล้ว...ก็มีเสียงดังขึ้นมาว่า...ถ้าตายแล้ว...พ่อกับแม่ล่ะ...เค้าจะเสียใจแค่ไหน...
เพราะประโยคนั้นเลยทำให้มีชีวิตจนถึงตอนนี้...
ความเจ็บปวด...ความเหงา...เวลาก็ได้เข้ามาเยียวยาจนคลายลง...แต่มันก็ยังไม่หมดไป...
ซักวัน...ความรู้สึกเหล่านั้นอาจจะกลับมาก็ได้...
แต่ก็ช่างมัน...ขอแค่เวลาที่เหลือของเรามีความสุขดีก็พอ....

หนักหนากว่าความตาย....คือ การที่กลายเป็นคนที่ถูกลืม..  

more than bored : Sad,
more than sad : Unhappy,
more than unhappy : Ill,
more than ill : Abandoned,
more than abandoned : Alone in the world,
more than alone in the world : In exile,
more than in exile : Dead,
more than dead : Forgotten.

......

......


หนักหนากว่าความเบื่อ คือเศร้า ,
หนัหนากว่าความเศร้า คือชีวิตไร้สุข,
หนักหนากว่าชีวิตที่ไร้สุข คือป่วยไข้,
หนักหนากว่าความป่วยไข้ คือการถูกทอดทิ้ง,
หนักหนากว่าถูกทอดทิ้ง คืออยู่อย่างเปล่าเปลี่ยวบนโลกใบนี้,
หนักหนากว่าการอยู่อย่างเปล่าเปลี่ยวบนโลกใบนี้ คือ พลัดพราก,
หนักหนากว่าความพลัดพราก คือตาย,
...หนักหนากว่าความตาย คือถูกลืม

ใช่แล้ว ...
นี่แหละ forgotten อันแสนเศร้าน่าใจหาย
เราอยากเป็นที่จดจำของใครบางคนอันเป็นที่รัก
แต่ใครเล่าจะทำสำเร็จทุกครั้งได้

อยากเป็นที่จดจำ
จึงเอาใจคนอื่นมากไป
เราต้องสูญเสียตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัย

หากตามใจตัวเองมากไป
เราอาจไม่เหลือใคร
แม้แต่คนใจร้ายที่จะมาตำหนิติด่า

ยอมตายดีกว่าถูกลืม --
เก๋และเฉียบขาดไม่ใช่เล่น
หากใครทำและเป็นเช่นนั้นได้

แต่เราจะเอาชีวิตไปผูกติดกับคนอื่นขนาดนั้น
ได้อย่างไร
คงไม่เพียงเราเองที่อึดอัดคับข้องใจ

คนที่ต้องแบกความเป็นตายของเราไว้
ก็คงอยากฆ่าตัวตายวันละหลายหน

สำคัญแค่ไหนว่า
เราจะต้องเป็นที่จดจำของใครหรือเปล่า
บางที ชีวิตก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเรา มากล้น

นอกจาก
ขอเพียงเราจดจำใครบางคนไว้ ... ตลอดไป --
เท่านั้น

ดอกไม้กับผีเสื้อ

...จะมีประโยชน์ใด...
.
...หากเธอรักผีเสื้อ...
แต่เกลียดตัวหนอน
...หากเธออยากเห็นผีเสื้อ...
แต่ไม่ปลูกดอกไม้
.
...หากเธอปลูกดอกไม้...
แต่ไม่พรวนดินเอาใจใส่
.
...หากเธอเอาใจใส่...
แต่เพียงในจินตนาการ
.
เมื่อเป็นเช่นนั้น...
.
ผีเสื้อที่เธอรัก...
ก็จะโบยบินแต่ในความฝัน
และต่อให้เธอเอื้อมมือไขว่คว้า
ก็ไม่อาจได้มาเชยชม...


18/8/55

"บทลาของการเริ่มต้น"

แจกันน้อยเดินทางมาจากดินแดนหนึ่งที่มีความรักลึกซึ้งล้ำค่า
แต่ทว่ามิอาจมอบรักแด่ดอกไม้ดอกใดได้
ทำไมนะหรือ ก็เพราะมันเจอดอกไม้ที่สวยสดงดงาม
หากทว่ามันยังไม่เจอดอกไม้แห่งรักที่แท้จริง
วันนี้หัวใจเหนื่อยนักยิ่งไขว่คว้ายิ่งไกลยิ่งห่าง
ความเป็นจริงที่โหดร้าย ได้กัดกร่อนก้อนเนื้อเท่ากำมือที่เรียกว่า "หัวใจ" จนบอบช้ำ
ในทางกลับกันมันทำให้หัวใจนี้เข้มแข็งขึ้น
ขอบคุณวันเวลาที่นำพาเธอมาให้พบ
ละครบทนี้เดินเรื่องด้วยความเหงา เศร้า รอยยิ้ม คราบน้ำตา
สุดท้ายตัวเอกของเรื่องคือ "ความว่างเปล่า"
จะมีใครสักกี่คน ที่จะต้องการรู้ตอนจบจริงๆของเรื่องราวที่อยู่ในความทรงจำ
และไม่มีวันเลือนหายไปจากใจ
เพราะในชีวิตจริงนั้น........
มีอยู่หลายเรื่องที่เราจำเป็นต้องรู้ตอนจบ
แม้ว่าจะไม่อยากรับรู้ก็ตาม
ฉันเดินทางมาไกล ไกลเกินกว่าจะย้อนกลับไปเริ่มต้นใหม่ ณ จุดเดิม
ในความรู้สึกลึกๆ ข้างใน
ความรู้สึกนั้นยังคงงดงามเสมอ
ถ้าทำได้อยากหยุดทุกอย่างไว้ ณ ตรงนี้
ตรงที่ความรู้สึกดีๆ ยังคงมีอยู่
หยุดพักปล่อยวางทุกอย่างไว้ข้างหลัง
จากนั้นก้อนเนื้อที่เรียกว่า "หัวใจ" นี้แหละจะพาสองเท้านี้ก้าวไป
ทุกอย่างจบลงแล้ว วันพรุ่งนี้เป็นของเรา
...................................................
มิตรภาพมั่นคง ยืนนาน ต้องผ่านบทเรียน คืน วัน
และความผันแปรทั้งหลาย
ณ วันหน้าผากยับย่น เส้นผมกลายเป็นสีเทา
ถนอมมิตรภาพแสนงามไว้ในดวงใจ


" Wallpaper "
































17/8/55

"10 พฤติกรรมของการนอกใจ"

1. เวลาชวนไปไหนมาไหน จะชวนไปทำธุระด้วย หรือจะไปดูหนัง ฟังเพลง เริ่มมีคำพูดประเภท ไม่ว่าง, ติดธุระ ฯลฯ บ่อยขึ้น

2. เจอหน้ากันทีไร เริ่มมีอาการแสดงท่าทีเฉย ๆ บ่อย หรือไม่ก็ดูจะหงุดหงิดไปเสียทุกอย่าง โดยเฉพาะที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณ

3. โทร.ไปหาทีไร ไม่ค่อยติด เอ...อ้างโทรศัพท์แบตฯหมดบ๊อย...บ่อย หรือไม่กว่าจะรับโทรศัพท์นานเกินเหตุ และที่เป็นลางบอกเหตุก็คือ คำถามคำแรกจากปลายสายก็คือ...โทร.มาทำไม หรือ มีอะไรรึเปล่า...

4. ร้างลาการชักชวนไปไหนด้วยกันเกินกว่า 2 อาทิตย์ โดยที่...ไม่ได้ป่วย หรือติดธุระสำคัญ

5. เริ่มมีคำพูดประเภทก้าวร้าว ไม่ให้เกียรติ หรือไม่ก็พาดพิงแง่ลบไปถึงครอบครัว

6. จู่ ๆ เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงภาพภายนอก แต่งสวย แต่งหล่อ ดูแลตัวเองเกินเหตุ เกินปกติที่เคยเป็นหรือเคยไปด้วยกันโดยไม่มีการพูดคุยถึงการเปลี่ยนแปลงมาก่อน เช่น อยากตัดผมทรงใหม่ หรืออยากเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว เป็นต้น

  7. ในภาวะที่อยากได้กำลังใจ หรือมีภาวะที่เป็นข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกิดขึ้น แทนที่จะมีคำปลอบใจ ให้กำลังใจ หรือเป็นที่ปรึกษา กลับมีแต่คำพูดที่ซ้ำเติม
8. ผิดสัญญาบ่อยครั้ง

9. ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะลืมไปแล้วว่าคำว่า...ขอโทษสะกดอย่างไร

10. เมื่อเขาหรือเธอมีคำพูดหลุดออกมาว่า...เธอดีเกินไป
จาก ข้อ 1 - 10 มีข้อแม้ว่าต้องเกิดขึ้นบ่อยมาก ถึงบ่อยที่สุด ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง อย่าเพิ่งไปเหมาหรือไปมองในแง่ลบเสียทีเดียว เพราะชีวิตคู่จะมีความสุขได้อย่างน้อยคุณก็ต้องเชื่อใจกัน และให้อภัยในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้เสมอ



ที่มา : fwm